19 คน 600 ล้านปอนด์ : เจา เปโดร จำเป็นต่อแดนหน้า เชลซี มากแค่ไหน?

Maruak Tanniyom

19 คน 600 ล้านปอนด์ : เจา เปโดร จำเป็นต่อแดนหน้า เชลซี มากแค่ไหน?  image

เจา เปโดร ประเดิมสนามเป็นตัวจริงให้เชลซีได้อย่างงดงาม หลังเหมาคนเดียว 2 ประตู ช่วยให้ทีมคว้าชัยเหนือฟลูมิเนนเซ 2-0 ในฟุตบอลสโมสรโลก 2025 รอบรองชนะเลิศ 

อย่างไรก็ดี นับตั้งแต่ เชลซี ได้เจ้าของใหม่เมื่อปี 2022 นี่คือแนวรุกคนที่ 19 ของพวกเขา และใช้เงินรวมกันไปกว่า 600 ล้านปอนด์ ในตำแหน่งนี้ 

อดีตกองหน้า ไบรท์ตัน จำเป็นต่อแนวรุกของ เชลซี มากแค่ไหน จนขนาดต้องซื้อมาเพิ่ม? ร่วมหาคำตอบไปพร้อมกัน

แกนหลักแนวรุก

นับตั้งแต่เจ้าของเปลี่ยนมือมาเป็นกลุ่มทุนอเมริกัน เชลซี ก็เดินหน้าไล่ล่าผู้เล่นแดนหน้าที่ใช่สำหรับพวกเขามาตลอด แถมแต่ละคนค่าตัวก็ไม่ธรรมดา ไม่ว่าจะเป็น ราฮีม สเตอร์ลิง (47.5 ล้านปอนด์), นิโคลัส แจ็คสัน (32 ล้านปอนด์) คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู (52 ล้านปอนด์) หรือ เปโดร เนโต (51.3 ล้านปอนด) 

เช่นกันกับฤดูกาลนี้ ที่ตลาดหน้าร้อนยังเหลืออีกเดือนกว่า แต่เชลซี คว้าผู้เล่นแดนหน้ามาร่วมทัพไปแล้วถึง 4 ราย ด้วยมูลค่ารวมกว่า 132 ล้านปอนด์ 

แต่นักเตะที่ถูกจับตามากที่สุดน่าจะเป็น เจา เปโดร ที่มีค่าตัวแพงที่สุดในตลาดรอบนี้ หลังย้ายจากไบรท์ตัน ด้วยมูลค่าสูงถึง 55 ล้านปอนด์ 

เขาจะกลายเป็นหนึ่งในผู้แย่งชิงตำแหน่งหมายเลข 9 และหมายเลข 10 ของเชลซี ในฤดูกาลหน้า โดยมีผลงานที่ยอดเยี่ยมกับ ไบรท์ตัน เป็นเครื่องรับรอง หลังซัดไปถึง 30 ประตูจาก 70 เกม ใน 2 ฤดูกาลหลัง 

และทันที่ประเดิมสนามเป็นตัวจริงให้ สิงบลู เขาก็เบิกประตูให้ทีมได้ทันที แถมยังเหมา 2 ช่วยให้ เชลซี คว้าชัยเหนือ ฟลูมิเนนเซ 2-0 ทะลุเข้าชิงชนะเลิศ สโมสรโลก 2025 ได้สำเร็จ 

แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือสถิติในสนาม เมื่อแข้งชาวบราซิล แสดงให้เห็นว่าไม่ใช้โอกาสเปลือง หลังมีโอกาสยิงแค่ 3 ครั้ง แต่กลายเป็นประตูถึง 2 ลูก แถมทั้ง 3 ครั้งยังตรงกรอบทั้งหมด มีแค่ เอนคุนคู ที่มีโอกาสยิงมากกว่าเขา 

นอกจากนี้ เปโดร ยังช่วยเพิ่มมิติในเกมรุกของเชลซี โดยเฉพาะการเป็นแกนกลางในเกมบุก ไม่ว่าจะบนพื้น หรือกลางอากาศ ด้วยสถิติท้าดวลกับคู่แข่งเป็นอันดับต้นๆของทีม 

แนวรุกวัย 23 ปี มีโอกาสเผชิญกับคู่แข่งแบบตัวต่อตัวถึง 9 ครั้ง และดวลลูกกลางอากาศอีก 4 ครั้ง ก่อนจะถูกเปลี่ยนตัวออกไปพักหลังผ่านชั่วโมงแรก 

สถิติดังกล่าว มีเพียงแค่ เอ็นคุนคู และ มอยเซส ไกเซโด ที่ทำได้มากกว่าเขาสำหรับลูกบนพื้น แต่ทั้งคู่ก็อยู่ในสนามนานกว่ากองหน้าชาวบราซิล ส่วนกลางอากาศ เขาเป็นรองแค่ มาร์ค กูกูเรญา และ เทรโวห์ ชาโลบาห์ เท่านั้น

“มันไม่ใช่แค่เรื่องของประตู แต่เป็นการเล่นร่วมกัน การจ่ายบอล วิสัยทัศน์ มันเป็นฟอร์มที่ยอดเยี่ยมในทุกด้าน” แกเรธ เบลล์ อดีตปีก เรอัล มาดริด กล่าวกับ DAZN 

“นี่คือก้าวต่อไปของเขาในเส้นทางอาชีพ เขาอยู่ในทิศทางที่ดีมาก เราได้เห็นความสามารถที่เขามี และหวังว่าเขารักษามันไว้ได้” 

ประโยชน์ทั้งสนาม  

นอกจากประตูที่ทำได้ เปโดร ยังมีสถิติที่น่าสนใจ นั่นคือการได้บอล เมื่อตลอด 1 ชั่วโมงในเกมกับฟลูมิเนนเซ ดาวเตะชาวบราซิลสัมผัสบอลไปถึง 26 ครั้ง มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของกองหน้าเชลซีที่ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในสโมสรโลก 2025 เป็นรองแค่ แจ็คสัน คนเดียว

เขายังมีส่วนร่วมทั่วทั้งสนาม เมื่อการสัมผัสบอล 7 ครั้ง เกิดขึ้นในแดนตัวเอง และ 7 ครั้งเกิดที่ริมเส้นด้านซ้ายและขวา และอีก 2 ครั้งในกรอบเขตโทษ ส่วนที่เหลือเกิดขึ้นที่กลางสนาม 

 “ข้อดีของ เจา คือเขารู้เสมอว่าเขารู้ว่าเขามีดีตรงไหน” เอนโซ มาเรสกา กุนซือเชลซีกล่าวหลังเกมกับฟลูมิเนนเซ

“วันนี้เขาลงไปเล่นต่ำ แต่เราก็รู้อยู่แล้ว่าเขาสามารถถอยลงต่ำเพื่อมาเชื่อมเกมได้ และนั่นคือเหตุผลที่เราซื้อเขาเข้ามา” 

ขณะที่ เลียม ดีแลป กองหน้าอีกคน ที่ลงเล่นเป็นตัวจริงในนัดสุดท้ายรอบแบ่งกลุ่มกับ ตูนิส พบว่าเขาสัมผัสบอลในแดนตัวเองเพียงแค่ 2 ครั้งเท่านั้น ส่วน แจ็คสัน ก็ยังแค่ 4 ครั้งในเกมกับ พัลไมรัส 

นอกจากนี้ เปโดร ยังมีประโยชน์ในด้านกว้าง เมื่อเขาสามารถฉีกไปเล่นที่ริมเส้นทั้งสองฝั่ง เพื่อเพิ่มมิติในเกมรุกของเชลซี ระหว่างการเซ็ตบอล ต่างจาก ดีแลป หรือ แจ็คสัน ที่มักจะค้ำอยู่ตรงกลาง หรือพื้นที่สุดในท้ายในกรอบเขตโทษ

“ทกทีมมีสไตล์การเล่นที่ต่างออกไป ดีแลป ก็เป็นสไตล์หนึ่ง แจ็คสันก็เป็นแบบหนึ่ง และผมก็มีแนวทางของตัวเอง” เปโดร กล่าวหลังเกม 

“ผมคิดว่าไม่ว่าใครก็สามารถนำสิ่งดีๆ ในการเล่นมาให้ทีมได้ทั้งนั้น”
 
สิ่งเหล่านี้คือหลักฐานถึงอิทธิพลในการเข้ามาของ เปโดร ที่สามารถสร้างความแตกต่างให้ เชลซี ได้มากกว่าที่เป็นอยู่ และน่าจับตามองว่าเขาและต้นสังกัดจะทำได้ดีแค่ไหน ในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2025-2026 ที่กำลังมาถึง

บทความที่เกี่ยวข้อง

Maruak Tanniyom

ลีดส์ ยูไนเต็ด, ญี่ปุ่น, มังงะ