ข่าวแมนยูล่าสุดได้เปิดเผยว่า เมสัน เมาท์ แข้งตัวใหม่ทัพปีศาจแดงมีอาการบาดเจ็บ และเขาจะไม่สามารถกลับมาช่วยทีมได้ จนถึงช่วงเบรคทีมชาติเป็นอย่างน้อย
การเสียนักเตะเพราะอาการบาดเจ็บไม่เคยเป็นเรื่องดี แต่สำหรับแมนยูในตอนนี้ การไม่ได้ใช้งานเมาท์สามารถพาทัพปีศาจแดง กลับคืนสู่ฟอร์มที่ยอดเยี่ยมได้อีกครั้ง
เพราะอะไรอาการบาดเจ็บของ เมสัน เมาท์ สามารถพาฟอร์มที่ดีกลับมาให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ติดตามไปพร้อมกับบทความนี้โดย บก.จิมมี่ จาก AllSportsPeople
นอกจากนี้ ทุกคนสามารถ ร่วมทายผลงานของแมนยูชิงรางวัลได้ที่นี่
ทำไม เมสัน เมาท์ เจ็บ มีสิทธิ์ช่วยแมนยูกลับมาเก่งอีกครั้ง
ต้องกลับไปใช้แผนเดิม
เราได้เห็นการปรับมาเล่นในระบบ 4-3-3 เวลาต้องขึ้นเกมบุกของแมนฯ ยูไนเต็ด ตามการเข้ามาของ เมสัน เมาท์ เนื่องจากเอริค เทน ฮาก ต้องการใช้ความขยันของเมาท์ผสมผสานกับผู้เล่นคนอื่น เพื่อสร้างทีมที่เปลี่ยนรับเป็นรุกที่มีประสิทธิภาพตามความต้องการของโค้ชรายนี้
อย่างไรก็ตาม เราเห็นตลอด 2 นัดแรกว่าแผนใหม่ของเทน ฮาก ยังไม่ลงตัว ก่อปัญหามากมายโดยเฉพาะเรื่องการครองบอล
หากคุณอยากรู้ว่า แมนยูเผชิญปัญหาการครองบอลอย่างไร? ติดตามได้ในบทความนี้: แมนยูครองบอลไม่ได้: ปัญหาใหญ่พาปีศาจแดงฟอร์มตก
แต่การเสีย เมสัน เมาท์ ก็ทำให้ผู้เล่นที่คอยวิ่งไล่บอลในแดนกลางหายไป และตัวเลือกแดนกลางที่ดีที่สุดที่เป็นตัวสำรองของแมนยู คือ คริสเตียน อิริคเซน ตัวจริงจากปีที่แล้ว ซึ่งไม่ได้ถนัดเล่นในฐานะกองกลางจอมไล่บอล
ดังนั้น หากจะใช้อิริคเซนให้มีประสิทธิภาพสูง ทางที่ดีที่สุดคือแมนยูต้องกลับไปเล่นแทคนิคเดิมในฤดูกาลที่ผ่านมา ซึ่งเป็นแทคติกที่พาแมนยูไปไกลจนจบอันดับ 3 ในพรีเมียร์ลีก
การกลับมาของอีริคเซน
การขาดหายไปของคริสเตียน อีริคเซน ส่งผลกระทบอย่างมากกับการครอบครองบอลของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จนทำให้ประสิทธิภาพการของบอลของทีมปีศาจแดงลดจาก 57 เปอร์เซ็นต์ในฤดูกาลที่ผ่านมา เหลือเพียงแค่ 47.5 เปอร์เซ็นต์ในฤดูกาลนี้
ซึ่งจากฤดูกาลที่ผ่านมา อิริคเซนถือเป็นกองกลางที่ได้ครองบอลเฉลี่ยมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของแมนยู ในพื้นที่กลางสนาม
โดยอิริคเซนมีสถิติครองบอลในพื้นที่กลางสนามเฉลี่ยต่อเกม 32.6 ครั้งในพรีเมียร์ลีก เป็นรองแค่คู่ขาของเขาอย่าง คาเซมิโร ซึ่งอยู่ที่เฉลี่ย 33.9 ครั้งต่อเกม
ดังนั้นหากรวมสถิตการครองบอลกลางสนามของ อิริคเซน กับ คาเซมิโร เข้าด้วยกันจะอยู่ที่ 66 ครั้งต่อเกมเลยทีเดียว
แตกต่างจาก เมสัน เมาท์ เขามีค่าเฉลี่ยการครองบอลในสนามแค่ 13.5 ครั้งต่อเกมเท่านั้นในฤดูกาลนี้
ดังนั้น การเปลี่ยนเมาท์สู่อิริคเซน เท่ากับว่าแมนยูจะสามารถเพิ่มโอกาสสัมผัสบอลกลางสนามมากขึ้นถึง 20 ครั้งต่อเกม ซึ่งจะช่วยให้แมนยูได้ครองบอลมากขึ้นอย่างแน่นอน
ต้องบอกว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีสูตรสำเร็จในการแก้ไขปัญหาของทีมอยู่แล้ว นั่นคือกลับไปใช้แทคติกเดิม และพาคริสเตียน อิริคเซ่น กลับมาสู่ทีมอีกครั้ง
คำถามคือ เอริค เทน ฮาก จะทำแบบนี้หรือไม่? เขาจะยอมกลับไปใช้แทคติคเดิมที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว หรือจะยอมไปต่อกับแทคติคใหม่ที่ยังไม่ลงตัว
เราจะได้รู้คำตอบในเกมที่แมนยูเปิดบ้านพบกับน็อตติงแฮม ฟอเรสต์
ขอบคุณข้อมูลจาก Fotmob และ FBREF
