โจนาธาน ดิ เบลล่า นั่งบัลลังก์ราชันคิกบ็อกซิ่ง รุ่นสตรอว์เวต แต่เพียงผู้เดียว หลังล้างตาชนะ พระจันทร์ฉาย พีเค.แสนชัย พร้อมกระชากเข็มขัดแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นสตรอว์เวต มาครอบครอง ในศึก ONE Fight Night 36
เส้นทางการเป็นนักกีฬาอาชีพของเขาดูกำลังสวยสดงาม อย่างไรก็ตาม นักชกเลือดอิตาลี-แคนาดา ยังมีอีกหนึ่งความฝันนอกสังเวียนนั่นก็คือการเป็นเจ้าของกิจการร้านกาแฟสไตล์อิตาเลียน อีกสิ่งที่เขาหลงใหลมาตั้งแต่เด็ก ๆ ไม่แพ้การต่อยมวย
ความฝันนอกสังเวียนของแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นสตรอว์เวต เป็นเช่นไร? ติดตามได้ที่นี่
ความฝันนอกสังเวียนของ โจนาธาน ดิ เบลล่า
โจนาธาน ดิ เบลล่า เริ่มเข้ายิมซ้อมมวยตั้งแต่อายุเพียง 2 ขวบ เท่านั้น โดยมีคุณพ่อของเขาเป็นโค้ชคนแรก ขณะเดียวกันเขายังเผยอีกว่าการกินกาแฟครั้งแรกของเขาเกิดขึ้นขณะที่อายุเพียง 6 ขวบ และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา “กาแฟ” dHไม่ต่างอะไรจากปัจจัยที่ 5 ในการดำรงชีวิต
“ครั้งแรกที่ผมได้ดื่มเอสเพรสโซช็อตคือตอนอายุประมาณ 6 ขวบ คุณปู่ให้ผมดื่มเอสเพรสโซช็อตนึง ซึ่งผมก็รู้สึกดีหลังจากนั้นด้วย” โจนาธาน ดิ เบลล่า เปิดใจผ่าน ONE Championship
“ครอบครัวผมมาจากหมู่บ้านในแคว้นคัมปาญา ผมจำได้ว่าตอนเด็ก ๆ ที่อิตาลี ผมเปิดหน้าต่างตอนเช้า สิ่งแรกที่ได้กลิ่นคือกาแฟกับเอสเพรสโซ นั่นเป็นความทรงจำที่ผมชอบที่สุดเลย”
“ผมมักดื่มเอสเพรสโซก่อนซ้อม ผมชินกับมันมาตั้งแต่เด็กแล้ว มันเป็นสไตล์ของผมเอง ผมไม่รู้ว่าคนอื่นจะชอบไหม แต่พวกเขาลองได้นะ แต่ผมแนะนำให้ดื่มในตอนเช้ามากกว่า”
กาแฟไม่ได้เป็นเพียงแค่ความหลงใหลของ ดิ เบลลา เท่านั้น แต่เขาได้เปลี่ยนให้มันกลายเป็นธุรกิจ หลังเปิดตัว Di Bella Espresso กิจการจำหน่ายเมล็ดกาแฟที่คัดสรรมาอย่างดีให้แก่ผู้ที่ชื่นชอบรสชาติและกลิ่นอันหอมหวานของกาแฟเฉกเช่นเดียวกับเขา
“ผมคิดมาตลอดว่าจะทำอะไรที่ไม่เกี่ยวกับการต่อสู้เลย ผมอยากมีจิตใจที่สงบสุขบ้าง ได้หลีกหนีจากการต่อสู้บ้าง การมีสิ่งนี้มันดีเสมอ”
“ผมเป็นคนเลือกเมล็ดกาแฟเอง ดังนั้นมันแน่นอนว่าจะต้องดีที่สุด! แล้วผมก็เห็นทั้งพื้นที่ ทั้งการคั่ว และทุกอย่างเลย ผมคิดว่าทุกคนควรได้ลอง”
อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงก้าวเล็ก ๆ ของ "Coffee Lover" วัย 29 ปีเท่านั้น เพราะความฝันสูงสุดของ ดิ เบลลา คือการเปิดค่าเฟ่สไตล์อิตาเลียนที่ไมอามี สถานที่ที่เขามองเห็นโอกาสทางธุรกิจ
“ผมอยากเปิดร้านกาแฟที่ไมอามีแน่นอนครับ 100 % เลย”
“ผมอยากทำมันมาตลอด ผมชอบที่จะเคลื่อนไหว เช่น ฝึกซ้อม หรือ สอนคนอื่น ผมเหงื่อแตกตลอดเวลา แต่ร้านกาแฟทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลายและสงบขึ้น การชงกาแฟเป็นความสนุกสำหรับผม มันทำให้ผมผ่อนคลาย ดังนั้นนั่นคือสิ่งที่ผมอยากทำจริง ๆ ในสักวันหนึ่ง นั่นแหละคือฝันของผม”
“ผมรู้สึกว่านั่นคือเหตุผลที่ผมอยากไปไมอามี เพราะที่นั่นไม่มีร้านกาแฟอิตาเลียนแท้ ๆ มากนัก ดังนั้นผมอยากให้พวกเขาได้สัมผัสบรรยากาศอิตาเลียนแท้ ๆ และพวกเขาจะได้สัมผัสสไตล์การใช้ชีวิตที่ผ่อนคลายแบบ Dolce Vita”
“ผมมีชื่ออยู่ในใจแล้ว อาจจะเป็น Casa Di Bella หรือ Cafe Di Bella อะไรทำนองนั้น อะไรสักอย่างที่มีชื่อผมอยู่ด้วยแน่นอน แต่ Casa Di Bella นี่เจ๋งดีนะ”
“ผมอยากมอบกาแฟที่ดีที่สุด ขนมที่ดีที่สุด อะไรก็ตามที่ผมมีให้พวกเขา และทำให้พวกเขารู้สึกดี ผมอยากทำให้พวกเขารู้สึกผ่อนคลาย เหมือนที่ผมรู้สึก”