ใกล้เข้ามาเรื่อยๆแล้วสำหรับรอบเพลย์ออฟของ NBA ที่ในปีนี้มีการแย่งชิงพื้นที่กันอย่างดุเดือด
แน่นอนว่าในตอนนี้เราได้หลายต่อหลายทีมแล้วที่จะได้เข้าไปเล่นในเพลย์ออฟอย่างแน่นอน แต่ก็ยังมีอีกหลายทีมที่กำลังเค้นฟอร์มของตัวเองออกมาเพื่อให้ได้พื้นที่ที่ทีมตัวเองหวังเอาไว้แม้จะเหลือตำแหน่งที่ว่างไม่มากแล้วก็ตาม
แต่ในบทความนี้เราไม่ได้มาเพื่อพูดถึงเรื่องเหล่านั้น แต่เรากำลังจะพูดถึงทีมที่ได้เข้ารอบเพลย์ออฟไปแล้วว่าการที่พวกเขาจะแสดงผลงานได้ดีนั้นใครคือตัวแปรสำคัญนอกจากสตาร์ อย่างที่ทุกคนรู้ดีว่าสตาร์ของทีมจำเป็นต้องทำผลงานให้ดีเพื่อจะพาทีมเข้าไปในรอบลึกๆแต่บาสเกตบอลคือกีฬาประเภททีมแต่ต่อให้สตาร์จะเล่นดีอย่างไร ถ้าเพื่อนร่วมทีมที่คอยสนับสนุนไม่ก้าวขึ้นมาทำหน้าที่ของตัวเอง ทีมก็ไม่อาจคว้าชัยชนะไปได้
ใครคือตัวแปรสำคัญหรือ X-Factor สำคัญที่จะมาสนับสนุนผู้เล่นหลักของแต่ละทีมในรอบเพลย์ออฟของสายตะวันออก? เรารวบรวมมาให้ทุกคนที่นี่แล้ว
อ่านบทความ: NBA ทีมไหนจะไปเพลย์ออฟ? อัพเดททุกโอกาสและสถานการณ์ที่นี่
ผู้เล่นตัวแปรสำคัญในรอบเพลย์ออฟสายตะวันออก

มิลวอกี้ บัคส์: คริส มิดเดิลตัน
คริส มิดเดิลตัน คือชิ้นส่วนสำคัญของ บัคส์ ไม่แพ้ ยานนิส หรือ จรู ฮอลิเดย์ เลยก็ว่าได้ แต่ในปีนี้เขามีผลงานที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นักเนื่องจากเพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บครั้งใหญ่มาจึงต้องใช้เวลาเคาะสนิมกันบ้าง
การไม่มีตัวถือบอลที่สามารถสร้างจังหวะการยิงเองได้จากทั้งสองหรือสามแต้ม บวกกับสกิลเพลย์เมคเกอร์ของ คริส มันจึงทำให้ประสิทธิภาพเกมรุกของ บัคส์ ลดลงอย่าชัดเจนไม่ว่าจะเป็นช่วงต้นฤดูกาลนี้หรือในเพลย์ออฟปีที่แล้วก็ตาม รวมถึงขนาดตัวที่สูงถึง 6 ฟุต 8 ของเขาก็ยังเป็นไซส์ที่ทุกทีมต้องการเนื่องจากปิดได้หลายตำแหน่งอีกด้วย
เรื่องดีของ บัคส์ ในตอนนี้ก็คือแม้ผลงานของ มิดเดิลตัน โดยรวมทั้งปีจะต่ำกว่ามาตรฐานของตัวเองแต่ในช่วง 10 เกมหลังสุดค่าเฉลี่ยของเขาก็เริ่มดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ช่วงเวลา | แต้มต่อเกม | แอสซิสต์ต่อเกม | รีบาวด์ต่อเกม | นาทีต่อเกม | เปอร์เซนต์ฟิลด์โกล | เปอร์เซนต์สามแต้ม |
ทั้งฤดูกาล | 15.4 | 5.0 | 4.4 | 24.5 | 44.0% | 31.4% |
10 เกมล่าสุด (ถึง 3/4/2023) | 20.0 | 6.8 | 5.0 | 30.3 | 47.3% | 35.2% |
ซึ่งถ้าเขายังคงประคองการเล่นแบบใน 10 เกมล่าสุดเอาไว้ได้หรือพัฒนามากขึ้นในเพลย์ออฟ คริส มิดเดิลตันอาจะกลายเป็นปัจจัยสุดสำคัญที่จะพา บัคส์ ไปสู่จุดมุ่งหมายที่หวังเอาไว้ก็มีโอกาศเป็นไปได้สูงเลยทีเดียว

บอสตัน เซลติกส์: เดอร์ริค ไวท์
ในปีนี้การยิง 3 คะแนนของ บอสตัน เซลติกส์ ถือว่าดีกว่าฤดูกาลก่อนพอสมควรโดยไต่จากอันดับที่ 14 (35.6 เปอร์เซนต์) ในฤดูกาลที่แล้วมาเป็นอันดับ 6 (37.7 เปอร์เซนต์) ของลีกในปีนี้ ซึ่งเหตุผลสำคัญก็มีหลายอย่างทั้งการปรับแผนเกมรุกของ โจ มัซซูลลา หรือการปรับเปลี่ยนการเล่นของ เจย์สัน เททัม และอีกอย่างที่ไม่พูดก็คงไม่ได้ก็คือการยิงสามคะแนนของ เดอร์ริค ไวท์ ในฤดูกาลนี้
ฤดูกาล | 3 คะแนนที่ลงต่อเกม | โอกาสยิง 3 คะแนนต่อเกม | เปอร์เซนต์ 3 คะแนน |
2019-20 | 1.2 | 3.2 | 36.6% |
2020-21 | 2.3 | 6.8 | 34.6% |
2021-22 | 1.5 | 4.9 | 31.2% |
2022-23 | 1.8 | 4.7 | 38.4% |
หากดูจากตารางแล้ว ในฤดูกาลนี้ เดอร์ริค ไวท์ มีฤดูกาลที่ยอดเยี่มเลยทีเดียวสำหรับเรื่อง 3 คะแนนเพราะเขายิงลงไปถึง 38.4 เปอร์เซนต์ ซึ่งนี่เป็นเปอร์เซนต์ที่มากที่สุดของตัวเขาหากไม่นับปีรุกกี้ที่เขามีโอกาสยิงเพียง 0.8 ครั้งต่อเกมเท่านั้น
และถ้าหากเทียบในปีที่แล้ว ตัวเขาขยับขึ้นมาถึง 7.2 เปอร์เซนต์ด้วยกันทั้งๆที่จำนวนครั้งในการยิงไม่มีอะไรต่างกันเลย ซึ่งจุดนี้จะสำคัญมากเพราะเขาเป็นผู้เล่นเกมรับวงนอกที่ดีและสูงถึง 6 ฟุต 4 และเมื่อเกมรุกเขาสามารถยิง 3 คะแนนได้ เขาก็จะสามารถสร้างพื้นที่เกมรุกให้กับสองเจทั้ง เททัม และ บราวน์ ได้เล่นง่ายขึ้นอีกด้วย
หากเขายังคงเล่นแบบนี้ได้ในเพลย์ออฟ เซลติกส์ จะน่ากลัวขึ้นมาอีกเป็นกองเลยเหมือนกัน

ฟิลาเดลเฟีย เซเว่นตี้ซิกเซอร์ส: ไทรีส แม็กซีย์
ในปีนี้ แม็กซีย์ ได้ก้าวขึ้นมาช่วย โจเอล เอ็มบีด และ เจมส์ ฮาร์เด้น เอาไว้ได้ในหลายๆเกมเนื่องจากการพัฒนาในเกมรุกและประสบการณ์ที่มีมากขึ้น
เรื่องที่สำคัญในฤดูกาลนี้ก็คือประสิทธิภาพในการยิง 3 คะแนนของ แม็กซีย์ ยังคงดีเหมือนเดิมทั้งๆที่เขาได้ยิงมากขึ้น ซึ่งนี่เป็นเรื่องดีมากๆแถมการยิงพูลอัพ 3 แต้มของเจ้าตัวยังพัฒนาขึ้นอย่างผิดหูผิดตาอีกต่างหาก แน่นอนว่านี่อาจจะทำให้เกมรับของอีกฝั่งปวดหัวไม่น้อยและอาจจะทำให้อีกฝั่งต้องเปลี่ยนเกมรับเมื่อเจอเขาอีกด้วย
รูปแบบการยิง 3 คะแนน | 3 คะแนนที่ลงต่อเกม | โอกาสยิง 3 คะแนนต่อเกม | เปอร์เซนต์ 3 คะแนน |
แคตช์แอนด์ชู้ต | 1.6 | 3.6 | 44.9% |
พูลอัพ | 1.0 | 2.5 | 37.8% |
รวม | 2.6 | 6.2 | 42.7% |
หากเขายังสามารถทำได้แบบนี้อย่างต่อเนื่องจนไปถึงในเพลย์ออฟ ภาระหน้าที่ของ เอ็มบีด และ ฮาร์เด้น ก็จะเบาลงไปอีกขั้นอย่างแน่นอนไม่ว่าจะเป็นในชุดตัวจริงหรือสำรอง
คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส: คาริส เลอเวิร์ท
จุดอ่อนของ แคฟส์ ในฤดูกาลนี้คงไม่มีใครปฎิเสธได้เลยว่ามันคือตำแหน่งปีกหรือตำแหน่งที่ 3 ในสนามนั่นเอง
จริงๆแล้วจะบอกว่าเป็นจุดอ่อนก็คงไม่ถูกมากนักแต่มันยังคงเป็นตำแหน่งที่ไม่มีใครสามารถยึดได้อย่างเต็มตัวซักทีไม่ว่าจะเป็น ไอแซค โอโคโร, ดีน เหวด, เซดี ออสแมน, ลามาร์ สตีเวนส์ หรือแม้แต่ คาริส เลอเวิร์ท เองก็ตาม เพราะแต่ละคนมีข้อดีข้อเสียที่ต่างกันออกไป เช่นบางคนเล่นรับดีแต่ยิงสามไว้ใจไม่ได้ หรือบางคนก็ยิงสามได้แต่เกมรับไม่ดีมากนัก นี่จึงเป็นโจทย์ขิ้นใหญ่ของทีมเลยทีเดียว
ส่วนคนที่น่าจะอยู่ในพื้นที่ทำได้หลากหลายอย่างและอาจจะถูกหยิบใช้มากที่สุดก็คือ ลาเวิร์ท นี่เอง ด้วยไซส์ที่สูง 6 ฟุต 6 ที่มีเกมรับประมาณค่าเฉลี่ยของลีกพร้อมกับการทำแต้มที่หลากหลาย (แม้จะไม่ได้มีประสิทธิภาพมากนัก) บวกกับการถือบอลสร้างจังหวะยิงเองได้ ทำให้เขาเหมาะสม (ที่สุด) หากจะใช้ในเพลย์ออฟ
ฤดูกาล | แต้มต่อเกม | แอสซิสต์ต่อเกม | รีบาวด์ต่อเกม | สตีลต่อเกม | ประสิทธิภาพฟิลด์โกล |
2022-23 | 12.0 | 3.9 | 3.8 | 1.0 | 51.0% |
หากเราดูที่ค่าประสิทธิภาพฟิลด์โกล นี่คือเปอร์เซนต์ที่มากที่สุดตั้งแต่เขาเป็นรุกกี้เลยทีเดียว ถ้าหากเขาสามารถพัฒนาการเล่นทั้งเกมรับและเกมรุกของเขาได้ในเพลย์ออฟ โดยที่ให้เหนือกว่าค่าเฉลี่ย ทางด้าน คาวาเลียร์ส ก็น่าจะมีตัวยืนในตำแหน่ง 3 ที่ดีมากขึ้นและอาจจะเป็นกุญแจสำคัญในหลายๆเกมที่จะพาทีมเข้าไปในรอบลึกๆก็เป็นไปได้เหมือนกัน

นิวยอร์ก นิกส์: อาร์เจ แบร์เร็ตต์
เจเลน บรันสัน คือดีลสุดคุ้มค่าของ นิกส์ ในฤดูกาลนี้ ส่วน จูเลียส แรนเดิล ก็กลับมาแสดงฝีมือได้อย่างยอดยเี่ยมจนติด All-Star ไปได้ เพราะฉะนั้นผู้เล่นอีกคนหนึ่งที่จะทำให้ นิกส์ ทะยานไปในก้าวต่อไปได้ก็คงไม่ใช่ใครนอกจาก อาร์เจ แบร์เร็ตต์ ดราฟท์อันดับ 3 ปี 2019
อาร์เจ แบร์เร็ท ในฤดูกาลนี้ประสิทธิภาพต้องบอกว่าไม่ได้ดีกว่าฤดูกาลที่แล้วเท่าไหร่นักหากดูจากตารางด้านล่าง
ฤดูกาล | แต้มต่อเกม | แอสซิสต์ต่อเกม | เปอร์เซนต์ฟิลด์โกล 2 คะแนน | เปอร์เซนต์3 คะแนน | ประสิทธิภาพฟิลด์โกล |
2021-22 | 20.0 | 3.0 | 44.2% | 34.2% | 46.6% |
2022-23 | 19.5 | 2.7 | 49.1% | 31.7% | 48.6% |
แม้ว่าประสิทธิภาพการยิงจากระยะสองคะแนนของเขาจะเพิ่มขึ้นแต่การยิงจากสามคะแนนของเขาตกลงอย่างเห็นได้ชัดจากฤดูกาลที่ผ่านมา
การเล่นของ นิกส์ ในฤดูกาลนี้ของเน้นไปที่ห่วงและสามคะแนนมากขึ้นแทนที่จะเป็นระยะกลางซึ่ง แบร์เร็ตต์ ทำได้ดีไม่น้อยเลยทีเดียวกับการเพิ่มประสิทธิภาพในการยิงสองคะแนน แต่ถ้าหากเขายิง 3 คะแนนได้อย่างน้อยถึง 35 เปอร์เซนต์ในเพลย์ออฟมันจะช่วยทีมของเขาได้เยอะมากๆเลยทีเดียวเพราะเขามีไซส์ที่ดีและเป็นตัวป้องกันปีกได้อีกด้วยในเกมรับ
หากเขาทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี พัฒนาการยิงสามคะแนนในเพลย์ออฟให้มั่นคง นี่อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ นิกส์ ไม่ต้องโหลดเกมไปให้ทาง บรันสัน และ แรนเดิล จนเกินไปหรือเผลอๆพวกเขาอาจจะสามารถผ่านเข้ารอบสองไปได้ด้วยซ้ำ
NBA LEAGUE PASS สมัครเพื่อชมการแข่งขันเอ็นบีเอสดทุกนัดคลิก