จอนโจ เชลวีย์ อดีตกองกลางทีมชาติอังกฤษ เปิดเผยเหตุผลที่ย้ายมาเล่นในยูเออี เพราะไม่อยากให้ลูก ๆ เติบโตที่ประเทศอังกฤษ
ไม่เกี่ยวกับเงิน
จอนโจ เชลวีย์ อดีตกองกลางทีมชาติอังกฤษ ผ่านการลงสนามในพรีเมียร์ลีกมาแล้ว 278 นัด กับทั้ง ลิเวอร์พูล, สวอนซี ซิตี้, นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด และ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ก่อนย้ายไปค้าแข้งต่างแดนครั้งแรกในปี 2023 อียูปสปอร์ ในลีกตุรกี
เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา เชลวีย์ ย้ายกลับมาเล่นที่บ้านเกิดเป็นระยะเวลาสั้น ๆ กับ เบิร์นลีย์ ก่อนที่ปัจจุบันบนวัย 33 ปี จะย้ายมาอยู่กับ อราเบียน ฟัลคอนส์ สโมสรในลีกรองของประเทศยูเออี
แม้ลีกฟุตบอลตะวันออกกลางจะขึ้นชื่อเรื่องการให้ค่าเหนื่อยสูง อย่างไรก็ดี เชลวีย์ เปิดเผยว่าเขาไม่ได้มาที่นี่เพราะเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ แต่อย่างใด แต่เพียงเพราะเขาไม่อยากให้ลูก ๆ ทั้ง 3 เติบโตที่ประเทศอังกฤษก็เท่านั้น
“ผมไม่ได้กังวลอะไร ผมเห็นคนพูดทำนองว่า 'เขาไปที่นั่นเพื่อเงิน' ผมก็เลยคิดว่า 'เงินอะไร? ในลีกดิวิชั่นสองของยูเออีไม่มีเงินหรอก'” จอนโจ เชลวีย์ เปิดใจผ่าน BBC
“ค่าจ้างมาตรฐานที่นี่อยู่ที่ประมาณ 2,000 ปอนด์ต่อเดือนสำหรับนักฟุตบอล เมื่อเทียบกับรายได้ที่ผมได้รับตลอดอาชีพแล้ว ถือว่าธรรมดามาก พี่ชายผมทำงานในโรงแรมที่ลอนดอนยังหาเงินได้มากกว่าซะอีก ดังนั้นมันไม่เกี่ยวกับเรื่องเงินเลย”
“ตอนนี้ผมมีเวลาแล้ว ผมมีความสุขและพอใจ ตอนนี้ผมแค่อยู่ในช่วงที่อยากสนุกกับฟุตบอล มันคือการตื่นนอนแล้วได้สนุกกับสิ่งที่ทำ และใช้เวลากับครอบครัว”
📝 𝗗𝗘𝗔𝗟 𝗗𝗢𝗡𝗘: Arabian Falcons FC have signed Jonjo Shelvey on a free transfer.
— Transfer News Live (@DeadlineDayLive) September 29, 2025
They are a club competing in the 3rd tier of football in the United Arab Emirates. 🇦🇪 pic.twitter.com/rMjxCKKUcP
“ถ้าต้องพูดตามตรง ผมไม่อยากให้ลูก ๆ ของผมเติบโตที่อังกฤษอีกต่อไป พวกเรามีความโชคดีมากที่ได้อยู่ในพื้นที่ดี ๆ ของสหราชอาณาจักร แต่ที่ที่ผมมาจากมาผมคิดว่าคุณก็ไม่สามารถมีสิ่งดี ๆ ได้”
“ผมเลิกใส่นาฬิกาเดินในลอนดอนแล้ว และคุณก็ไม่ควรพกโทรศัพท์ติดตัวไปในลอนดอนด้วย ผมไม่ได้สนเรื่องการเมืองมากนัก ผมแค่เห็นบางสิ่งบางอย่างที่เกิดขึ้น”
“ผมเห็นคนถูกจับกุมเพราะทวีตข้อความ ผมจะไม่มานั่งแสดงความคิดเห็นเรื่องแบบนั้นที่นี่ เพราะผมไม่ฉลาดพอ และผมคงจะเดือดร้อนถ้ายังทำแบบนี้ต่อไป แต่ผมแค่รู้สึกว่าสหราชอาณาจักรไม่เป็นเหมือนเมื่อ 10 หรือ 15 ปีก่อนอีกแล้ว”
ตามรายงานของตำรวจนครบาลเผยว่าเมื่อปีที่ผ่านมามีโทรศัพท์มือถือถูกขโมยไปในลอนดอนราว 80,000 เครื่อง และมีเหตุการณ์ลักทรัพย์ที่เป็นข่าวโด่งดังเกิดขึ้นหลายกรณีในเมืองหลวงช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา