ย้อนกลับไปเมื่อสิบกว่าปีก่อน ลูกทุ่มไกลถือเป็นหนึ่งในอาวุธที่ทรงประสิทธิภาพของฟุตบอลอังกฤษ โดยเฉพาะการมาจากสองมือของ “รอรี ดีแลป” กองกลางของ สโต๊ค ซิตี้
อย่างไรก็ดี ดูเหมือนว่าลูกทุ่มไกลที่น่ากลัวเช่นนี้ จะหายไปจากฟุตบอลยุคปัจจุบัน เพราะแทบไม่มีทีมไหนใช้เป็นการโจมตีหลัก เหมือนกับ สโต๊ค ในอดีตอีกเลย
เพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น? ติดตามไปพร้อมกัน
อันตรายกว่าเตะมุม
มันคือวิธีบุกที่ทำให้แนวรับทั้งพรีเมียร์ลีกต้องปั่นป่วน ด้วยความเร็ว และวิถีที่พร้อมจะเปลี่ยนไปในมุมที่ไม่คาดคิด หากได้สัมผัสกับผู้เล่นคนอื่น และที่สำคัญมันไม่ได้ออกมาจากปลายเท้า แต่เป็นสองมือของชายที่ชื่อว่า รอรี ดีแลป
ในช่วงทศวรรษที่ 2000 ดีแลป สถาปนาตัวเองขึ้นมาเป็นตัวทำเกมเบอร์ต้นๆ ของพรีเมียร์ลีก ด้วยลูกทุ่มไกลที่ทรงพลังของเขา มันน่ากลัวจนถึงขนาด โบอัซ มายฮิลล์ ผู้รักษาประตูของ ฮัลล์ ซิตี้ ยอมเตะบอลออกหลัง เพื่อเสียลูกเตะมุม ดีกว่าเสียลูกทุ่ม
“ถ้าทำได้ถูกต้อง ไม่มีทางที่จะป้องกันมันได้ ไม่ต้องสนใจว่าจะเจอกับทีมอะไร มันต้องได้ผล หากผมได้ทำในระยะทำการ” ดีแลปกล่าวกับ The Independent

ในช่วงเวลานั้น สโต๊ค ทำประตูจากลูกทุ่มของ ดีแลป ได้ถึง 25 ลูก มันกลายเป็นแทคติกที่ยากจะรับมือในสนาม จนทำให้หลายทีมหากเป็นทีมเหย้า เลือกที่จะเลื่อนป้ายโฆษณา เข้ามาชิดกับเส้นขอบสนาม เพื่อให้ ดีแลป มีพื้นที่ในการทุ่มน้อยลง
“มันยากที่จะป้องกันเพราะบอลมาในแนวราบ มันพุ่งมาเหมือนกับลูกธนู ดังนั้นมันจึงยากที่จะซ้อมป้องกันในการฝึกซ้อม เพราะไม่ใช่ว่าจะหาใครซักคนที่ทำแบบนี้ได้ง่ายๆ” อาร์เซน เวนเกอร์ กุนซือของ อาร์เซนอล ในเวลานั้น กล่าวหลังโดนลูกทุ่มของ ดีแลป เล่นงาน
อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันกลับไม่มีทีมไหนเลือกใช้
ไม่ต่างจากฟรีคิก
เนื่องจากลูกทุ่มของดีแลป มีต้นกำเนิดมาจากการทำทีม สโต๊ค ของ โทนี พูลิส ทำให้มันถูกจำกัดไว้สำเร็จทีมที่เล่นบอลแบบไดเร็ค และ เน้นป้องกัน
นอกจากนี้ลูกทุ่มไกลในยุคปัจจุบัน ไม่ได้มีประสิทธิภาพเหนือกว่าลูกตั้งเตะ แทคติกที่กุนซือให้ความสำคัญมากในยุคหลัง จนถึงขนาดแทบทุกทีมในพรีเมียร์ลีกมีโค้ชฟรีคิกโดยเฉพาะ
ยิ่งไปกว่านั้น แทคติกในการทุ่มไกล ดูไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาเลย นับตั้งแต่ยุค ดีแลป นั่นคือทุ่มเข้าไปในกรอบเขตโทษ แล้วโหม่งเช็ดเปลี่ยนทางเพื่อทำประตู

ต่างจากฟรีคิก ที่แตกหน่อออกมาสารพัดร้อยแปด เพิ่มความเป็นไปได้แบบไร้ขีดจำกัด จนยากจะหาวิธีรับมือทัน รู้ตัวอีกที บอลก็เข้าไปตุงตาข่ายเสียแล้ว
บวกกับการฝึกทุ่มไกล ดูจะเป็นการใช้ทรัพยากรที่สิ้นเปลือง เพราะมันต้องสร้างกล้ามเนื้อแขน แทนที่จะไปทุ่มเทกับกล้ามเนื้อขาอย่างเต็มที่ จนทำให้ความสำคัญของมันเริ่มหมดไป
แต่ถึงอย่างนั้น มันก็ไม่ได้ถึงหายไป
อาวุธลับ
เนื่องจากฟุตบอลยุคใหม่ หลายทีมมักจะดันสูงเพื่อบีบพื้นที่ ลูกทุ่มไกล จึงถูกนำมาใช้เพื่อทำลายแทคติกเหล่านี้ นั่นคือเอาชนะกับดักล้ำหน้า
ประกอบกับผู้เล่นที่ยืนล้ำหน้า มักจะไม่ได้รับการประกบเท่ากับ ผู้เล่นที่อยู่ในไลน์ การทุ่มไกล จึงเป็นวิธีในการช่วงชิงจังหวะเหล่านี้
แน่นอนว่าไม่ใช่แค่พื้นที่ทำประตูเท่านั้น เพราะการทุ่มไกล ก็ยังถูกนำมาใช้ เมื่อถูกเพรสซิ่งอย่างหนัก บริเวณกลางสนาม แต่ก็อยู่ในระดับที่น้อยมาก
เนื่องจากบริเวณกลางสนาม เป็นจุดที่อาจจะถูกตัดบอล แล้วโดนโต้กลับจนทำให้เสียประตู มันจึงเป็นพื้นที่ที่ไม่อยากมีใครกล้าเสี่ยงมากนัก

นั่นจึงทำให้ยากที่จะมีใครสานต่อ แทคติกของ พูลิส และวิธีการทุ่มบอลของ ดีแลป และทำให้การทุ่มไกล เริ่มเลือนหายไปจากฟุตบอลในยุคปัจจุบัน
แต่ถึงอย่างนั้น ก็มีบางทีมนำมาปรับใช้อยู่บ้าง และส่วนใหญ่มักจะเป็นจังหวะฉวยโอกาส แต่ประสิทธิภาพก็ยังห่างไกลจากยุค ดีแลป อยู่พอสมควร
ก็ได้แต่หวังว่าจะมีคนคิดค้นแทคติกในการทุ่มแบบใหม่ขึ้นมาได้ และเมื่อถึงเวลานั้น บางทีโลกฟุตบอล ก็อาจมีตำแหน่งใหม่อย่างโค้ชทุ่มไกล ก็เป็นได้